Games News

ยูเอ็นมีหลักฐานชวนเชื่อว่า ฮามาสข่มขืน-ทรมานตัวประกันผู้หญิงและเด็กจริง

0 0
Read Time:3 Minute, 19 Second

วันที่ 4 มี.ค. ปรามิลา แพตเทน ทูตพิเศษด้านความรุนแรงทางเพศในความขัดแย้ง ขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) รายงานว่า มี “ข้อมูลที่ชัดเจนและชวนเชื่อ” ว่า ผู้หญิงและเด็กบางคนที่กลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกันถูกข่มขืนและทรมานทางเพศ และมี “เหตุผลที่สมเหตุสมผล” ที่จะเชื่อว่า การล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งรวมถึงการข่มขืนและการรุมโทรมในสถานที่ต่าง ๆ เกิดขึ้นระหว่างการโจมตีของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ต.ค. และการล่วงละเมิดดังกล่าว “ยังคงดำเนินอยู่”

ยูเครนอ้าง ใช้โดรนจมเรือรบรัสเซียได้เพิ่มอีกลำบริเวณคาบสมุทรไครเมีย

การต่อสู้ที่ไร้จุดจบคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง! พบหลุมดำแฝดพยายามกลืนกินกันและกันมานับกัปกัลป์

คุกรุ่น! เรือหน่วยยามฝั่งจีน-ฟิลิปปินส์เฉี่ยวชนกันกลางทะเลจีนใต้

รายงานนี้เกิดขึ้นจากการที่เธอและทีมผู้เชี่ยวชาญ 9 คนได้เดินทางไปยังอิสราเอลและเวสต์แบงก์ในช่วงครึ่งแรกของเดือน ก.พ. ที่ผ่านมาเพื่อรวบรวมข้อมูลละหลักฐาน แต่ก็พบข้อจำกัดหลายประการ

ข้อจำกัดสำคัญประการหนึ่งก็คือ ทีมงานไม่สามารถพบกับผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงทางเพศในระหว่างการโจมตีเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ได้ “แม้จะมีความพยายามร่วมกันเพื่อกระตุ้นให้พวกเขาก้าวออกมาข้างหน้าก็ตาม”

แพตเทนกล่าวว่า เหยื่อบางคนยังอยู่ระหว่างการบำบัดรักษาบาดแผลทางจิตใจ บางคนถูกย้ายมาอยู่ในอิสราเอลหรือย้ายไปต่างประเทศ และพยานผู้เผชิญเหตุคนแรกบางคนถูกส่งไปประจำการในกองทัพแล้ว

เธอเสริมว่า “การขาดความไว้วางใจจากผู้รอดชีวิตจากการโจมตีเมื่อวันที่ 7 ต.ค. และครอบครัวของตัวประกันในสถาบันระดับชาติและองค์กรระหว่างประเทศ เช่น สหประชาชาติ ตลอดจนการตรวจสอบสื่อระดับชาติและนานาชาติของผู้ที่เปิดเผยเรื่องราวของพวกเขาต่อสาธารณะ เป็นอุปสรรคขัดขวางการเข้าถึงผู้รอดชีวิตจากการโจมตี รวมถึงผู้รอดชีวิต/เหยื่อของความรุนแรงทางเพศ”

อย่างไรก็ตาม ทีมงานยูเอ็นสามารถพูดคุยกับพยานหลายคน ตรวจสอบวิดีโอและรูปภาพจำนวนมาก และสัมภาษณ์ตัวประกันที่ถูกปล่อยตัวออกมา

“จากรายงานโดยตรงของตัวประกันที่ถูกปล่อยตัว ทีมงานได้รับข้อมูลที่ชัดเจนและน่าเชื่อถือว่า มีความรุนแรงทางเพศ ซึ่งรวมถึงการข่มขืน การทรมานทางเพศ และการปฏิบัติที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม และย่ำยีศักดิ์ศรี เกิดขึ้นกับผู้หญิงและเด็กบางคนระหว่างที่ถูกกักขัง และมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า ความรุนแรงนี้อาจดำเนินต่อไป” รายงานกล่าว

รายงานเสริมว่า มีเหตุอันสมควร “ที่จะเชื่อว่าตัวประกันหญิงก็ตกเป็นเหยื่อความรุนแรงทางเพศในรูปแบบอื่น ๆ เช่นกัน”

ในการประเมินการล่วงละเมิดทางเพศโดยทีมงานของแพตเทนในวันที่กลุ่มฮามาสบุกโจมตีอิสราเอลตอนใต้ รายงานพบว่า “มีเหตุผลที่สมเหตุสมผลที่จะเชื่อได้ว่า ความรุนแรงทางเพศที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งเกิดขึ้นระหว่างการโจมตีเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ในหลายพื้นที่ทั่วฉนวนกาซา รวมถึงการข่มขืนและรุมโทรมในสถานที่อย่างน้อย 3 แห่ง”

ทีมแพตเทนยังได้ไปเยือนเวสต์แบงก์เพื่อพูดคุยกับทางการปาเลสไตน์ กลุ่มสิทธิมนุษยชน และผู้ถูกคุมขังบางคนที่ถูกปล่อยตัว เกี่ยวกับข้อกล่าวหาว่าอิสราเอลเองก็ล่วงละเมิดทางเพศชาวปาเลสไตน์ในค่ายกักกันเช่นกัน

ข้อกล่าวหาดังกล่าวถูกหยิบยกขึ้นครั้งแรกเมื่อเดือนที่แล้วโดยคณะผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติที่ระบุว่า มี “ข้อกล่าวหาที่น่าเชื่อถือ” เกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศดังกล่าว

รายงานของแพตเทนกล่าวว่า เบื้องต้นไม่พบกรณีของการข่มขืน แต่มีข้อกล่าวหาถึงรูปแบบอื่น ๆ ของการทำร้ายร่างกาย ซึ่งรวมถึง “การตรวจค้นร่างกายผู้ต้องขังโดยการสัมผัสบริเวณที่ไม่พึงประสงค์ และการบังคับปลดผ้าผู้หญิงที่สวมฮิญาบ การเฆี่ยนตีร่างกายรวมถึงบริเวณอวัยวะเพศ การขู่ว่าจะข่มขืน และการขู่ว่าจะข่มขืนสมาชิกในครอบครัวของผู้ต้องขัง”

เรียบเรียงจาก The Guardian

เปิดใจ 2 ผู้เสียหาย ถูกกะเทยฟิลิปปินส์ รุมทำร้ายในซ.สุขุมวิท 11

อุกกาบาต! สดร.คาดดาวตกสีเขียวปรากฏเหนือท้องฟ้า เป็น “ดาวตกชนิดลูกไฟ”

จบคดีสุดท้าย! ยิ่งลักษณ์ ลุ้นเดินตามรอยทักษิณกลับไทย

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %