นับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ร่วมกับสมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ ผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตและธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน และบริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) จัดให้มีโครงการคลินิกแก้หนี้ เพื่อให้ลูกหนี้ที่มีหนี้ค้างชำระสามารถแก้ไขปัญหาหนี้สินได้เบ็ดเสร็จในที่เดียว ควบคู่ไปกับการส่งเสริมความรู้ทางการเงิน และได้ปรับเกณฑ์การช่วยเหลือลูกหนี้ให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจแต่ปัญหายังไม่จบสิ้น โดยเฉพาะครัวเรือนที่มีปัยหาค่าครองชีพและภาระหนี้สูง
นางสาวสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่าแม้ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยโดยรวมจะปรับดีขึ้น แต่ครัวเรือนบางส่วนยังเปราะบางจากค่าครองชีพและภาระหนี้ที่สูงขึ้น โดยเฉพาะลูกหนี้กลุ่มบัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันและมีเจ้าหนี้หลายราย ซึ่งเป็นกลุ่มที่ยังต้องการความช่วยเหลือในการแก้ปัญหาหนี้อย่างยั่งยืน
คลินิกปรับเกณฑ์ใหม่ "หนี้เสียก่อน 1 ก.ย. -เปิด 3 ทางเลือกผ่อนชำระ"
หนี้เสีย "บัตร-สินเชื่อบุคคล" ก่อน 1 เม.ย. ขอปรับโครงสร้างดอกเบี้ย 5%
คณะกรรมการกำกับดูแลโครงการคลินิกแก้หนี้จึงปรับเกณฑ์คุณสมบัติให้ลูกหนี้ที่มีหนี้ค้างชำระมากกว่า 120 วันขึ้นไป สามารถเข้าร่วมโครงการได้ จากเดิมที่ต้องมีสถานะเป็นหนี้เสียก่อนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 เท่านั้น
รวมทั้งให้สถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ ช่วยประชาสัมพันธ์ให้ลูกหนี้รู้จักโครงการและรับทราบสิทธิในการสมัครเข้าร่วม เพื่อให้ลูกหนี้มีโอกาสแก้ปัญหาได้เร็วขึ้น ก่อนที่จะถูกขายหนี้หรือถูกบังคับคดี
นอกจากนี้ โครงการได้เพิ่มทางเลือกแผนการชำระหนี้ให้กับลูกหนี้ในโครงการที่เริ่มมีปัญหาในการผ่อนชำระ ซึ่งหากผิดนัดชำระซ้ำจะต้องกลับไปดำเนินการแก้ไขหนี้โดยตรงกับเจ้าหนี้ โดยโครงการจะพิจารณาเหตุผลความจำเป็น เพื่อแนะนำแผนการชำระหนี้ใหม่ที่เหมาะสมให้กับลูกหนี้เป็นรายกรณี เพื่อให้ลูกหนี้สามารถชำระหนี้ได้ต่อเนื่องจนปลดหนี้ได้ในที่สุด
ทั้งนี้ การปรับแผนการชำระหนี้ดังกล่าวจะจำกัดจำนวนครั้งและความถี่ อีกทั้งในระยะแรกของการปรับโครงสร้างหนี้ โครงการมีเงื่อนไขไม่ให้ลูกหนี้ก่อหนี้ใหม่ เพื่อสร้างวินัยและความรับผิดชอบ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาให้กับลูกหนี้ได้อย่างยั่งยืน
สำหรับลูกหนี้ที่ยังมีความสามารถชำระได้ ธปท. แนะนำให้ชำระหนี้ต่อไปเพื่อไม่ให้เป็นหนี้เสีย ซึ่งจะกระทบประวัติทางการเงินและความสามารถในการกู้ยืมในอนาคต
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถ สมัครร่วมโครงการผ่านเว็บไซต์ www.คลินิกแก้หนี้.com หรือสอบถามข้อมูลโครงการเพิ่มเติมที่ LINE Official Account ของโครงการที่ @debtclinicbysam, ทางเฟซบุ๊ค คลินิกแก้หนี้ by SAM หรือสอบคอลเซ็นเตอร์ โทร. 1443 ได้ทุกวัน เวลา 9:00-19:00 น.คำพูดจาก สล็อต เว็บ
โครงการคลินิกแก้หนี้ เป็นความร่วมมือระหว่าง ธปท. กับ สมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ ผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตและธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน และบริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) มีเงื่อนไขและคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมโครงการ ได้แก่
- ต้องเป็นบุคคลธรรมดาที่มีรายได้ อายุไม่เกิน 70 ปี
- เป็นหนี้เสียบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด หรือสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันวงเงินไม่เกิน 2 ล้านบาท
- ต้องเป็นหนี้กับสถาบันที่เข้าร่วมโครงการซึ่ง ณ ปัจจุบันมีสถาบันการเงินทั้งที่เป็นธนาคาร และไม่ใช่ธนาคาร (นอนแบงก์) เช่นบริษัทบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด เข้าร่วมโครงการมากกว่า 30 แห่ง